เพื่อให้เกษตรกรได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากภาครัฐอย่างครบถ้วนและถูกต้อง “การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนผู้ปลูกข้าว” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยมีกระบวนการและรายละเอียดที่เกษตรกรควรทำความเข้าใจ ดังนี้
การเตรียมตัวและแจ้งข้อมูล
เกษตรกรต้องกรอก แบบคำร้อง (ทบก.01) พร้อมเอกสารสำคัญ ได้แก่ บัตรประชาชน และหลักฐานที่ดิน หรือสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชัน FARMBOOK หรือ e-FORM ได้เช่นกัน
ที่สำคัญต้องระบุพื้นที่เพาะปลูกให้ถูกต้อง และแจ้งปรับปรุงข้อมูล ภายใน 15–60 วันหลังปลูกข้าว
การตรวจสอบข้อมูล
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องหลายขั้นตอน ได้แก่
- เอกสาร : ตรวจหลักฐานว่าตรงกับข้อมูลที่แจ้ง
- ระบบ : ตรวจสอบข้อมูลซ้ำซ้อน ผ่านภาพถ่ายดาวเทียมและฐานข้อมูลเกษตรกร
- พื้นที่ : ลงตรวจสอบแปลงจริงโดยใช้ GPS
- สังคม : เปิดประกาศรายชื่อ 3 วัน ให้ชุมชนตรวจสอบ ยืนยัน หรือคัดค้านข้อมูล พร้อมจัดประชาคมเพื่อความโปร่งใส เกษตรกรต้องลงลายมือชื่อยืนยันข้อมูลตนเอง
การขึ้นทะเบียนที่สมบูรณ์
เมื่อผ่านทุกขั้นตอนและระบบบันทึกผลว่า “ผ่าน” แล้ว การขึ้นทะเบียนในแปลงนั้นถือว่าสมบูรณ์
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- ระบบบันทึกข้อมูลตาม ฤดูปลูก (นาปี / นาปรัง) ไม่ใช่ตามชนิดพันธุ์ข้าว
- ต้องแจ้งปรับปรุงทะเบียน ทุกครั้งที่มีการเพาะปลูก
ข้อควรระวัง
หากมีการร้องเรียนหรือพบว่าเกษตรกรแจ้งข้อมูลไม่ตรงกับความจริง จะมีความผิดตามกฎหมาย ได้แก่
- มาตรา 137 แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน
- มาตรา 267 แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จลงในเอกสารราชการ
ดังนั้น เกษตรกรจึงควรใส่ใจและดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อรักษาสิทธิของตนเองและลดปัญหาที่อาจตามมา