เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 คณะกรรมการพิจารณารับรองพันธุ์ข้าวประจำปี 2568 มีมติรับรองพันธุ์ข้าวใหม่รวม 4 พันธุ์ ได้แก่ กข3, กข113, กข117 และกข119 เพื่อเพิ่มความหลากหลายและยกระดับคุณภาพการผลิตข้าวไทย โดยพันธุ์ใหม่เหล่านี้มีคุณสมบัติโดดเด่นทั้งด้านความนุ่ม ความหอม และความเหมาะสมกับพื้นที่เพาะปลูกที่แตกต่างกัน
- กข3 (ข้าวเจ้าจาปอนิก้า)
พันธุ์ข้าวที่มีลักษณะเมล็ดป้อมสั้น เหมาะสำหรับการบริโภคในลักษณะเดียวกับข้าวญี่ปุ่น หุงขึ้นหม้อ เนื้อนุ่ม เหมาะกับตลาดที่นิยมรับประทานข้าวเหนียวแต่ต้องการความนุ่มแบบพิเศษ เหมาะปลูกในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอากาศเย็น - กข113 (ข้าวเจ้าพันธุ์นุ่ม)
ลักษณะเด่นคือเมล็ดเรียวยาว หุงสุกแล้วนุ่ม แต่ไม่แฉะ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ เหมาะปลูกในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งมีระบบชลประทานเพียงพอ - กข117 (ข้าวเจ้าพันธุ์นุ่ม)
คล้ายกับกข113 แต่พัฒนามาให้ต้านทานโรคแมลงได้ดีขึ้น ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน จึงเหมาะกับพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก เช่น ภาคอีสานตอนล่างและบางพื้นที่ในภาคกลางตอนบน - กข119 (ข้าวเจ้าหอมพันธุ์นุ่ม)
พันธุ์นี้ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจใหม่ของวงการข้าวไทย เพราะรวมคุณสมบัติของ “ความหอม” และ “ความนุ่ม” เข้าไว้ด้วยกัน เหมาะกับตลาดระดับพรีเมียมและการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกและตะวันออกกลาง เหมาะปลูกในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างที่มีระบบน้ำดี

กรมการข้าวระบุว่า การพัฒนาพันธุ์ข้าวทั้ง 4 ชนิดนี้ ไม่เพียงตอบโจทย์ผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เกษตรกรมีทางเลือกในการปลูกข้าวที่หลากหลาย ลดความเสี่ยงเรื่องผลผลิต และสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เกษตรกรหรือผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมได้จาก QR Code ของกรมการข้าว เพื่อวางแผนการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง