จังหวัดลพบุรี – ในช่วงใกล้เทศกาลกินเจของทุกปี เกษตรกรในหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับภาวะฝนตกชุก น้ำท่วมขัง และราคาผักที่ผันผวน แต่สำหรับ “นายไพรัตน์ แก่นแก้ว” และ “นางเพ็ญจันทร์ แก่นแก้ว” เกษตรกรต้นแบบแห่งตำบลพรหมมาตร์ อำเภอเมืองลพบุรี กลับพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการปลูก “ผักบุ้งจีน” พืชผักระยะสั้นที่ให้ผลผลิตเร็ว เพียง 20 วันก็เก็บขายได้
ผักบุ้งจีนถือเป็นพืชผักเศรษฐกิจระยะสั้นที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงเทศกาลกินเจ เพราะเป็นผักที่ปลูกง่าย โตไว เพียง 18-20 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ และสามารถปลูกซ้ำได้ทันทีโดยไม่ต้องพักแปลงนาน เกษตรกรสามารถปลูกหมุนเวียนได้ ตลอดทั้งปี
นายไพรัตน์ ใช้พื้นที่เพียง 3 งาน จำนวน 4 แปลง ปลูกแบบ “ทยอยหมุนเวียนห่างกันแปลงละ 8 วัน” ทำให้มีผลผลิตออกขายได้ทุกวัน โดยในแต่ละแปลงสามารถเก็บได้กว่า 200 กิโลกรัม ส่งขายตลาดสดเทศบาลเมืองลพบุรี ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท สร้างรายได้เฉลี่ยวันละ 500–600 บาท หรือกว่า 15,000–20,000 บาทต่อเดือน
เกษตรกรรายนี้เผยเทคนิคว่า หลังเก็บผลผลิตในแต่ละรอบ จะตากดินทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันเชื้อรา ก่อนไถพรวนและหว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่ รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น และใส่ปุ๋ย 2 ครั้งในช่วง 7 และ 14 วัน เพื่อให้ผักมีใบเขียวสด อวบกรอบ น้ำหนักดี
ที่สำคัญคือ ผักบุ้งจีนไม่ต้องใช้สารเคมีมาก เพราะโตเร็วและมีอายุเก็บสั้น ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในความปลอดภัย และตอบรับความต้องการของตลาดในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการผักเพิ่มสูงขึ้น
นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี กล่าวชื่นชมว่า “ผักบุ้งจีนของเกษตรกรลพบุรีเป็นตัวอย่างของพืชหมุนเวียนที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง และเป็นอาชีพเสริมที่มั่นคงในช่วงเทศกาลกินเจ อีกทั้งยังจำหน่ายในราคายุติธรรม ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค”
“ผักบุ้งจีน” จึงไม่ใช่เพียงพืชผักธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความขยัน ความพอเพียง และการบริหารจัดการที่ดีของเกษตรกรไทย ที่รู้จักปรับตัวตามฤดูกาล และสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในทุกสถานการณ์