มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่จังหวัดลพบุรี 2 แห่ง ได้แก่ ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี และตำบลนิยมชัย อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ นางชลอ บุญซิน ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี โดยมี นายประยูร ศิริวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทานมอบในนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 17.23 น. ที่บ้านเลขที่ 169/5 ถนนคันคลองชลประทาน ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สองชั้น ได้รับความเสียหายทั้งหลัง มีผู้อยู่อาศัย 4 ราย โดยนางชลอได้รับบาดเจ็บจากศีรษะแตกและถูกไฟลวกบริเวณแขน ไม่มีผู้เสียชีวิตแต่ทั้งหมดได้รับความเดือดร้อน
ต่อมาในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ นางสาวสายฝน คำหอม อายุ 41 ปี ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ ตำบลนิยมชัย อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี โดยมี นายพิษณุ ประภาธนานันท์ ปลัดจังหวัดลพบุรี เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแทนพระองค์
เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 16.00 น. ที่บ้านเลขที่ 160/2 หมู่ 2 ตำบลนิยมชัย อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี เป็นบ้านสังกะสีชั้นเดียวได้รับความเสียหายทั้งหลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีผู้ได้รับความเดือดร้อนรวม 3 ราย
การได้รับสิ่งของพระราชทานในครั้งนี้ สร้างความปลาบปลื้มซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ครอบครัวผู้ประสบภัย และเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป
ในโอกาสนี้ หน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดลพบุรี อาทิ เหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี, ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี, ที่ว่าการอำเภอสระโบสถ์, ผู้นำท้องที่–ท้องถิ่น และหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ได้ร่วมมอบเงินและสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอัคคีภัยทั้งสองครอบครัว
การช่วยเหลือดังกล่าวนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระบรมราชูปถัมภกแห่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ที่ทรงห่วงใยและทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรผู้ประสบทุกข์ยากอย่างหาที่สุดมิได้