วันที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ที่วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ และนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีที่วัดพระบาทน้ำพุถูกสังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องการบริหารจัดการมูลนิธิ การใช้เงินบริจาค และการครอบครองที่ดิน
การประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดลพบุรีใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนที่นายสุชาติจะแถลงต่อสื่อมวลชนว่า พบข้อสังเกตหลายประการ โดยเฉพาะ เรื่องที่ดินและการใช้เงินบริจาค จึงสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีและสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ตรวจสอบรายละเอียดทุกด้าน และรายงานผลภายใน 10 วัน
ประเด็นที่ต้องตรวจสอบ
- เงินบริจาคและมูลนิธิ: ตรวจสอบว่าการตั้งมูลนิธิและการรับเงินบริจาคถูกต้องหรือไม่ มีการใช้ชื่อวัดหรือชื่อหลวงพ่อจูงใจประชาชนหรือเปล่า รวมถึงกรณี “หมอบี” ที่เปิดบัญชีส่วนตัวเพื่อรับเงินบริจาค ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ไม่โปร่งใส
- ที่ดิน: พบว่าที่ดินในชื่อมูลนิธิมีไม่กี่ร้อยไร่ แต่กรรมการมูลนิธิถือครองนับพันไร่ ต้องตรวจสอบว่าถือครองในนามส่วนตัวหรือแทนมูลนิธิ หากเป็นส่วนตัว ต้องพิจารณาความเหมาะสมและที่มาของทรัพย์สิน
- การใช้เงิน: มีการนำเงินไปสร้างอคาเดมี สนามกีฬา และโครงการต่าง ๆ ที่ใช้งบหลายแสนบาทต่อเดือน ต้องตรวจสอบว่าเป็นการใช้เงินสมเหตุสมผลหรือเกินขอบเขตหน้าที่ของวัด
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสงสัยเรื่องส่วนตัวของเจ้าอาวาส เช่น ความสัมพันธ์กับสีกา การมีครอบครัว รวมถึงวุฒิการศึกษาที่ใช้เลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งนายสุชาติได้มอบหมายให้นายอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงจากชาวบ้านและบุคคลใกล้ชิด
ด้านการบริหารจัดการวัด พระครูวิธารธรรมวิสุทธิ เจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี เปิดเผยว่า ในระหว่างการตรวจสอบ จะต้องหาพระมารักษาการแทนเจ้าอาวาสตามขั้นตอนของคณะสงฆ์ ก่อนพิจารณาแต่งตั้งอย่างเป็นทางการร่วมกับเจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะจังหวัดต่อไปนายสุชาติ ย้ำว่า หากพบข้อเท็จจริงที่ไม่โปร่งใส จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้วัดพระบาทน้ำพุกลับมามีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนต่อไป