วันที่ 22 กันยายน 2568 นายธนณัฐ อาจิณกิจ นายอำเภอพัฒนานิคม เปิดเผยว่า อำเภอพัฒนานิคมได้รับแจ้งจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ว่า จะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากอัตรา 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นอัตรา 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะทยอยเพิ่มอัตราวันละ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นไป เพื่อรองรับการกักเก็บน้ำในเขื่อน
ทั้งนี้ หากมีการระบายน้ำในอัตราดังกล่าว ระดับน้ำท้ายเขื่อนจะสูงขึ้นประมาณ 1.50 – 1.80 เมตร โดยพื้นที่ลุ่มต่ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ หมู่ที่ 1, 3 และ 11 ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังห่างจากตลิ่ง 3 – 4 เมตร จึงยังไม่ล้นตลิ่ง อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมแจ้งเตือนประชาชน รวมถึงจัดเตรียมเครื่องจักรและอุปกรณ์รองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ด้านนายชูพงษ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 744 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 77 ของความจุอ่างฯ โดยยังคงมีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารจัดการให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม กรมชลประทานจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำตามแผนที่กำหนด
การปรับเพิ่มการระบายน้ำครั้งนี้ จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้นอีกประมาณ 1.50 – 1.80 เมตร โดยพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ ตลาดน้ำต้นตาล ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี ตำบลแก่งเสือเต้นและตำบลหินซ้อน อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี รวมทั้งชุมชนวัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือ หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำมากกว่าที่ประกาศไว้ จะมีการแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี